Facebook
Line
Twitter
หน้ากากอนามัยเป็นของสำคัญมากในยุค New Normal เนื่องจากปัญหาวิกฤติเชื้อไวรัส COVID-19 ที่กลับมาอีกระลอก และ PM 2.5 ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นปัญหาประจำฤดูหนาวของประเทศไทยไปแล้ว แต่หน้ากากอนามัยในท้องตลาดมีหลายชนิด ซึ่งประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นและเชื้อไวรัสก็แตกต่างกันออกไป เราจึงควรทราบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนว่าหน้ากากอนามัยแต่ละชนิดเหมาะกับการใช้งานอย่างไร จะได้เลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์
หน้ากากผ้า
Credit: Freepik
หน้ากากผ้าเป็นหน้ากากที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากหาซื้อง่าย ลวดลายสวยงาม และราคาถูก แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นและเชื้อไวรัสต่ำ โดยหน้ากากผ้านั้น ป้องกันได้เฉพาะเสมหะ ฝุ่นละออง และเกสรดอกไม้เท่านั้น แต่ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัส COVID-19 ได้น้อยมาก (ป้องกันได้ประมาณ 20%) หากจำเป็นต้องใช้ก็ควรใส่หน้ากากอนามัยไว้ด้านในและใส่หน้ากากผ้าไว้ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง หรือใช้สเปรย์ฉีดเคลือบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นและป้องกันไวรัส
หน้ากากฟองน้ำ
Credit: Freepik
หน้ากากฟองน้ำหรือ Pitta Mask ผลิตจากโพลียูรีเทนคาร์บอน มีข้อดีคือสวมใส่สบาย พับเก็บง่าย คืนรูปไม่เสียทรง ใช้ซ้ำได้ ซักทำความสะอาดได้ แห้งเร็ว แต่หน้ากากชนิดนี้ใช้สำหรับกรองอากาศอย่างฝุ่นควันและเกสรดอกไม้เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 และเชื้อไวรัส COVID-19 ได้
หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น
Credit: Freepik
หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น เป็นหน้ากากที่เห็นได้บ่อยที่สุด มีประสิทธิภาพดีกว่าหน้ากากผ้า และราคาถูก สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ดี ป้องกันฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนอย่าง PM 2.5 ได้ในระดับพอใช้ (ป้องกันได้ประมาณ 66%) โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันได้โดยการใส่หน้ากากอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้น ก็จะช่วยให้ป้องกันไวรัสและฝุ่นได้ดีขึ้น
หน้ากากอนามัยคาร์บอน
Credit: Freepik
หน้ากากอนามัยแบบคาร์บอนจะมีลักษณะและคุณสมบัติคล้ายกับหน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น แต่จุดที่ต่างกันคือ หน้ากากชนิดนี้มีชั้นคาร์บอนเพิ่มขึ้นมาช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีขึ้นเท่านั้น ส่วนประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น เชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส COVID-19 ยังคงเท่าเดิม ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด
หน้ากาก FFP1
Credit: Euro Industry
หน้ากาก FFP1 เป็นหน้ากากที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 และฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดีมาก (ป้องกันได้ประมาณ 94%) ประสิทธิภาพใกล้เคียงหน้ากาก N95 นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันสารเคมีและฟูมโลหะได้อีกด้วย แต่หน้ากากชนิดนี้ใส่แล้วหายใจลำบาก หาซื้อยาก อีกทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูง
หน้ากาก N95
Credit: Freepik
หน้ากาก N95 เป็นหน้ากากที่ถือว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะสามารถป้องกันไวรัส COVID-19 และฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้มากกว่า 95% ถือว่าการป้องกันอยู่ในระดับดีมาก แต่เนื่องจากหน้ากาก N95 ใส่แล้วหายใจลำบาก อีกทั้งยังหาซื้อยากและมีราคาค่อนข้างแพง จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
ทั้งหมดนี้ คือ คุณสมบัติของหน้ากากอนามัยแต่ละชนิดที่วางขายอยู่ในท้องตลาด แต่เพียงการสวมหน้ากากอนามัยอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันเชื้อ COVID-19 และฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่าลืมล้างมือเป็นประจำด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในแหล่งผู้คนพลุกพล่าน ปฏิบัติตามนโยบาย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
เครดิตข้อมูล : Officemate, Silkspan, IPCH, Matichon
บทความที่เกี่ยวข้อง
สเปรย์ฉีดหน้ากากผ้า เพิ่มประสิทธิภาพป้องกัน COVID-19
หน้ากากผ้า ทำความสะอาดอย่างไร ให้ปลอดภัย ไกล COVID-19
หน้ากากผ้าชนิดไหน ช่วยป้องกันโควิด-19 ได้บ้าง ?