ทานยาเลื่อนประจำเดือนแล้วประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดจากอะไร ?

ทานยาเลื่อนประจำเดือนแล้วประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดจากอะไร ?

อีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัวสำหรับสาว ๆ หลายคนที่อยากออกไปเที่ยวแล้วประจำเดือนกำลังจะมาพอดี ก็มักจะทานยาเลื่อนประจำเดือนเพื่อเลื่อนประจำเดือนออกไปก่อน แต่บางคนทานยาตัวนี้บ่อยเข้าสุดท้ายจะมีอาการประจำเดือนไม่มา หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ แบบนี้เป็นเพราะอะไร ผิดปกติหรือเปล่า ? มาดูกันค่ะ

   

สาเหตุของประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติ

ใครที่ทานยาเลื่อนประจำเดือนแล้วมีอาการผิดปกติอย่างที่กล่าวไปก็ไม่ต้องกังวล อาการเหล่านี้คือ อาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยจากการใช้ยาเลื่อนประจำเดือน ซึ่งบางรายประจำเดือนอาจจะไม่มา หรือประจำเดือนมาผิดปกติ มาไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนมาแบบกะปรอยกะปรอยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การใช้ยาเลื่อนประจำเดือนอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ คัดตึงเต้านมได้อีกด้วยค่ะ

 

หยุดทานยาเลื่อนประจำเดือนแต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา ควรทำอย่างไร

อาการประจำเดือนไม่มา เป็นหนึ่งในอาการไม่พึงประสงค์ของการใช้ยาเลื่อนประจำเดือนอยู่แล้ว หากหยุดยาเกิน 1 สัปดาห์แล้วประจำเดือนยังไม่มา ร่วมกับในช่วงก่อนใช้ยานี้ได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คุมกำเนิด ควรตรวจการตั้งครรภ์รวมทั้งควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาให้เหมาะสมกับอาการ

 

หลังจากทราบข้อมูลที่เภสัชกรเล่าให้ฟังในบทความนี้แล้ว ก็หวังว่าจะช่วยให้หลายคนหายกังวลได้นะคะ แต่เภสัชกรก็ต้องเตือนไว้ก่อนเลยค่ะว่า การทานยาเลื่อนประจำเดือนบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องดี อาจทำให้มีอาการผิดปกติอย่างที่กล่าวมา หรืออาการผิดปกติอย่างอื่นตามมาได้ ดังนั้นไม่ควรทานบ่อยนะคะ 

 

 

ผู้เขียน

สิราวรรณ ล้วนสุธรรม 

เภสัชกร

 

อ่านอะไรต่อดี ? 

หายสงสัย ประจำเดือน คือเลือดดีหรือเลือดเสีย ?

วิธีแก้ปัญหาหิวไม่หยุด เครียด ในช่วงก่อนมีประจำเดือน

10 ข้อต้องรู้ เรื่องเกี่ยวกับประจำเดือน ที่ควรรู้ทั้งหญิงและชาย

 

หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ที่ ปวด ป่วย อาย จาม "ถามMacy" เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ

บทความการดูแลสุขภาพ