โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า โรคเมเนียร์ (Ménière's disease) เกิดจากน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นในเกิดความผิดปกติ และทำให้เกิดความทรมานแก่ผู้ป่วย โรคนี้เกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะคนอายุ 30-60 ปี และมักมีอาการเกิดขึ้นแบบทันทีทันใด
อาการยอดฮิตของคนที่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
1. เวียนศีรษะ บ้านหมุน เป็นอาการยอดฮิตของคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ บางคนอาจมีอาการปวดศีรษะคล้ายไมเกรน หรือบางคนอาจมีอาการ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลมร่วมด้วย
2. ทรงตัวยืนไม่อยู่ ต้องนอนหลับตานิ่งๆ เท่านั้น และอาจมีอาการนานมากกว่า 20 นาที หรือบางคนอาจเป็นนานหลายชั่วโมงเลยก็ได้ ส่วนมากมีอาการแบบเป็นๆ หายๆ
คลื่นไส้อยากอาเจียน
1. คนที่ป่วยเป็นโรคนี้บางคน มีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียน กระเพาะอาหารปั่นป่วน
2. บางรายอาจมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ
เสียงดังในหู
1. อีกหนึ่งอาการของคนที่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน คือมักได้ยินเสียงผิดปกติดังในหู อาจเป็นเสียงหึ่ง เสียงวี้ๆ เสียงลม หรือเสียงจักจั่น ซึ่งทำให้รำคาญ รบกวนการใช้ชีวิต หรือทำให้นอนไม่หลับได้
2. อาจเกิดอาการหูแว่ว หรือมีเสียงเบาๆ ข้างหูได้
หูอื้อ
1. ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการหูอื้อ แต่เมื่ออาการเวียนศีรษะลดลง ก็ทำให้อาการหูอื้อลดลงไปด้วย
2. ผู้ป่วยบางคนยังรู้สึกหนักๆ ในหู คล้ายมีแรงดันอยู่ภายใน 3. อาจมีปัญหาทางการได้ยิน ได้ยินเสียงเบาลง
ทำไงดีเมื่อมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน?
สำหรับคนที่สงสัยว่าตัวเองน่าจะมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากันอยู่ แนะนำให้ดูแลตัวเองดังนี้
- หยุดเดิน และนั่งพักเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ (โดยเฉพาะผู้ที่กำลังขับรถอยู่)
- อย่ารับประทานอาหารมากนัก เพื่อลดอาการอาเจียน และพยายามจำกัดความเค็มในอาหาร
- นอนหลับพักผ่อน โดยส่วนมากอาการจะดีขึ้นหลังนอนหลับ
- พบคุณหมอ เพื่อรับยาที่เหมาะสม
- หลังจากหายป่วยแล้ว ให้หมั่นออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มเลือดให้ไปเลี้ยงที่หูชั้นในมากขึ้น