ยาสำคัญที่ต้องมีติดบ้าน ในช่วงโควิด-19 ระบาด

ยาสำคัญที่ต้องมีติดบ้าน ในช่วงโควิด-19 ระบาด

โควิดสายพันธ์ต่างๆ อาการเบื้องต้นของโควิดทุกสายพันธุ์จะเป็นอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ลิ้นไม่รับรส เพราะฉะนั้นยาส่วนใหญ่ที่ควรมีติดบ้าน ก็จะเป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาอาการเหล่านี้นั่นเอง 

 

ยาที่ต้องมีติดบ้าน ช่วงโควิด

กลุ่มยาที่สามารถซื้อไว้ติดบ้าน ไม่ใช่ยาที่ใช้รักษาอาการโควิด-19 โดยตรง ใช้เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากการติดเชื้อโควิดเป็นหลัก ไม่ได้ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ ยาพวกนี้ไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ ใช้เพียงเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ เท่านั้น นอกจากนี้ ยาทุกชนิดอาจมีผลข้างเคียง และอาจเป็นอันตรายหากใช้ไม่ถูกต้อง

 

พาราเซตามอล

เป็นยาสำหรับบรรเทาอาการปวด ลดไข้ โดยให้กินยาพาราเซตามอลทันทีเมื่อมีไข้ หรือมีไข้สูงเกิน 37 องศาเซลเซียส เนื่องจากนอกจากอาการโควิด-19 การมีไข้สูงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น หัวใจเต้นเร็ว ร่างกายอ่อนเพลีย หรือร่างกายขาดน้ำ

กินทุก 4 - 6 ชั่วโมง ปริมาณก็ตามน้ำหนักตัว (10 x น้ำหนักตัว เช่นน้ำหนัก 80 กก ก็ต้องกินพารา 800 มิลลิกรัม พาราปกติจะเม็ดละประมาณ 500 มก ก็อาจจะต้องทาน เม็ดครึ่ง ถึง 2 เม็ด) กิน 1 เม็ด ให้เว้น 4 ชั่วโมง ถ้ากิน 2 เม็ด ให้เว้น 6 ชั่วโมง ทานวันละไม่เกิน 4000 มก (ประมาณ 8 เม็ด) ถ้าใช้ยาพาราเซตามอลมากเกินไป อาจทำให้ตับอักเสบ หรือตับวายได้

 

ยาแก้ไอแบบเม็ด

ยาแก้ไอแบบเม็ด เช่น Dextromethorphan บรรเทาอาการไอ โดยเฉพาะไอแห้ง แต่อย่าลืมว่า ยาไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิดลงปอดได้ ถ้ามีอาการไอเยอะ สามารถกินได้ แต่ควรกินตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ และกินเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีอาการปอดอักเสบ

เนื่องจากสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบแล้ว หลายคนจะมีอาการไอมากกว่าปกติ รวมถึงมีเสมหะจำนวนมาก ซึ่งผลิตจากถุงลมส่วนล่าง ที่ร่างกายพยายามจะขับออกมาเวลามีเชื้อ ดังนั้นหากมีอาการปอดอักเสบแล้ว การกินยาแก้ไอลักษณะนี้ เหมือนเป็นการไปกดอาการไอมากเกินไป ทำให้ร่างกายจะขับเสมหะออกมาตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้

 

ยาลดน้ำมูก

เช่น Chlorpheniramine เป็นยาเพื่อช่วยลดเสมหะ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น สามารถบรรเทาอาการได้ในคนที่มีอาการเยอะ

  • ข้อควรระวัง : หากเป็นผู้ป่วยโรคไต หรือ โรคตับบางอย่างที่มีข้อห้ามในการใช้ก็ต้องระมัดระวัง
  • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น : หากใช้มากเกินไปอาจทำให้น้ำมูกแห้ง คอแห้ง ปากแห้ง หรือมีอาการง่วงซึมได้ ควรใช้เท่าที่จำเป็น หรือใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

 

ยาแก้แพ้

บรรเทาอาการน้ำมูกไหล ไอ จาม จากการแพ้อากาศ บรรเทาอาการผื่นคัน ลมพิษ ซึ่งยาในกลุ่มนี้มีมีผลกดสมอง จึงไม่ควรใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะอาจทำให้เด็กแคระแกร็น ไม่สูงได้ ช่วยลดน้ำมูก ทำให้น้ำมูกแห้ง จึงมักนำมากินในตอนเป็นไข้หวัด น้ำมูกไหล แต่ไม่ได้ช่วยให้หายเป็นไข้หวัด ควรใช้กรณีที่มีน้ำมูกใสเท่านั้น ควรระวังการใช้ในเด็กเล็ก

  1. ยาแก้แพ้บางชนิดอาจทำให้ปากแห้ง จมูกแห้ง ปัสสาวะลำบาก และง่วงซึม จึงควรงดการขับขี่รถยนต์ ทำงานหรืออยู่ใกล้เครื่องจักร หากจำเป็นต้องทำงานหรือไม่สามารถนอนพักได้ อาจใช้ยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ทำให้ง่วงซึม ยาแก้แพ้มักทำให้เสมหะมีความเหนียวข้นมากกว่าเดิม 
  2. หากกินยาแก้แพ้ แล้วมีอาการไอมากขึ้น ควรหยุดกินยาทันที 
  3. ไม่กินยาแก้แพ้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกับยาที่มีฤทธิ์กดสมอง ยาระงับประสาท เช่น ยานอนหลับ ยากันชัก 
  4. หญิงมีครรภ์และให้นมบุตร ไม่ควรกินยาแก้แพ้เอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลือกชนิดและขนาดการกินที่เหมาะสม 
  5. เมื่ออาการภูมิแพ้ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อปรับลดยา

ให้ทานเท่าที่จำเป็น หรือใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

 

ยาธาตุน้ำขาว

แก้ปวดท้อง ท้องเสีย ขับลม แน่นท้อง เขย่าขวดก่อนใช้ยา

  • เด็ก รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชา วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร
  • ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร

 

ผงเกลือแร่ ORS

ผงเกลือแร่ ORS (Oral Rehydration Salts) หรือที่เรียกว่า ผงน้ำตาลเกลือแร่ (Electrolyte Powder Packet) คือ สารที่ช่วยทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มพลังงาน เกลือแร่ และน้ำในร่างกาย รวมทั้งป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่จากอาการท้องเสีย หรือ อาเจียน 

ให้ชงเกลือแร่ ORS ผสมน้ำต้มสุก น้ำสะอาด จิบเรื่อยๆ ทั้งวัน (ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไตและโรคหัวใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้)

 

ยาโรคประจำตัว

ใครมีโรคประจำตัวอะไรก็อย่าลืมเตรียมยาของตนเองไว้ให้เรียบร้อย เพราะการเดินทางออกนอกบ้านตอนนี้ถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมาก 

 

ฟ้าทะลายโจร

สรรพคุณของฟ้าทะลายโจรที่ช่วยต่อสู้กับโควิด-19 ได้ โดยจากการศึกษาวิจัยพบว่า ฟ้าทะลายโจร มีกลไกต้านไวรัส ป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์, ลดการแบ่งตัวไวรัสภายในเซลล์, เพิ่มภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับไวรัส, ลดการอักเสบที่ปอดจากการติดเชื้อไวรัส โดยแพทย์กระทรวงสาธารณสุขให้การรับรองว่า สามารถช่วยรักษาโควิด-19 ได้ และถูกนำมาใช้ในการแจกให้กับผู้ป่วยควบคู่กับการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ 

 

กระชายขาว

มีการวิจัยพบว่า สารสกัดจากกระชายขาวสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของ COVID-19 ได้ โดยสารสำคัญทั้ง 2 ตัวที่อยู่ในกระชายขาว คือ Pandulatin A, Pinostrobin เพราะจากผลวิจัยในหลอดทดลอง พบว่า สารสกัดกระชายขาว มีประสิทธิผลในการยับยั้ง 2 รูปแบบ 

  • รูปแบบแรก คือ สามารถที่จะลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อได้ 
  • รูปแบบที่สอง คือ การยับยั้งในการผลิตตัวไวรัสออกจากเซลล์ ซึ่งตรงนี้พบว่า สารสกัดจากกระชายขาวเองยับยั้งได้ ก็คือเซลล์นั้นไม่สามารถที่จะผลิตตัวไวรัสตัวใหม่ออกมาจากตัวเซลล์ได้เลย

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าสารสกัดกระชายขาวจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อก่อโรค COVID-19 ได้ แต่ก็ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมในด้านความปลอดภัยและปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภค ดังนั้นหากต้องการบริโภคกระชายขาว แนะนำปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย

 

สิ่งที่ควรมีติดบ้าน

หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

สองอย่างนี้ทุกคนคงมีติดบ้านกันไว้อยู่แล้ว เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้ชีวิตในยุคนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ สิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้อีกก็จะเป็น

 

ปรอทวัดไข้

การวัดไข้ที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การวัดด้วยปรอทวัดไข้โดยเสียบวัดไข้ที่ใต้รักแร้ เพราะเป็นการตรวจวัดแบบ Direct ไม่ผ่านตัวกลาง แต่อย่าลืมว่า อาการไข้อย่างเดียวไม่สามารถยืนยันได้ทันทีว่าติดโรคโควิด-19 เพราะอาการไข้เกิดได้หลากหลายสามเหตุมาก โดยอาการสำคัญของโรคโควิด-19 คือ หอบเหนื่อย ไอมาก เป็นต้น 

อุณหภูมิปกติของร่างกายคนเราจะอยู่ที่ประมาณ 36.8 - 37.8 องศาเซลเซียส หากวัดค่าได้อุณหภูมิที่สูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส จึงจะถือว่ามีไข้

 

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว

มีผู้ป่วยหลายราย มีอาการน้อยมากหรือไม่แสดงอาการเลย แต่เมื่อวัดค่าออกซิเจนในเลือด กลับพบว่าต่ำผิดปกติมาก ผ่านไปไม่นาน อยู่ ๆ ผู้ป่วยกลับมีอาการเหนื่อยหอบอย่ารุนแรงขึ้นมา ระบบหายใจล้มเหลวอย่างรวดเร็ว แล้วเสียชีวิตหลังจากแสดงอาการไม่นาน โดยทางการแพทย์เรียกอาการเช่นนี้ว่า “happy hypoxemia” หรือ “silent hypoxemia” การใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วจึงช่วยให้เราตรวจสอบระดับออกซิเจนในเลือดของเราได้ว่าอยู่ในระดับที่อันตรายหรือน่ากังวลหรือยัง 

  • 95% ขึ้นไป = ออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • 90–94% = เฝ้าสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น อาจเริ่มปรึกษาแพทย์ในกรณีที่มีอาการผิดปกติบางอย่าง
  • น้อยกว่า 90% = มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

ชุดตรวจโควิด

ใช้สำหรับตรวจวัดความเสี่ยงเบื้องต้น สามารถตรวจที่บ้านได้ ไม่ต้องไปเสี่ยงที่โรงพยาบาล 

 

ทิชชู่แห้ง-เปียก

ไว้สำหรับเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน 

 

สุดท้ายนี้ ตอนไปซื้อยาก็อย่าลืมสอบถามเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีใช้ยาแต่ละชนิดให้เข้าใจให้ดีก่อน เพราะยาทุกชนิดหากใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ นอกจากนี้ หากใครมีอาการคล้ายโควิด-19 หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจให้แน่ใจว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตรงจุด 

 

ยาและอุปกรณ์ที่ต้องมีติดบ้านในยุคโควิด | Telepharmacy

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: โรงพยาบาลวิชัยเวช, โรงพยาบาลพญาไท, กรุงเทพธุรกิจ

 

บทความแนะนำ

กินยาจนหายป่วย แล้วหยุดยาเลยได้ไหม

5 อาหารที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญระหว่างนอนหลับ

แคลเซียมผสมวิตามินรวม ดีอย่างไร ช่วยด้านไหนบ้าง

 

หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา Fascino ผ่านระบบเทเลฟาร์มมาซี เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพทุกช่องทาง

บทความการดูแลสุขภาพ