ปวดหัวข้างเดียว แน่ใจไหม ว่าใช่ไมเกรน ? 

ปวดหัวข้างเดียว แน่ใจไหม ว่าใช่ไมเกรน ? 

ปวดหัวข้างเดียวเป็นอาการเด่นของโรคไมเกรนซึ่งแตกต่างจากการปวดหัวทั่วไป ช่วยให้เราแยกแยะได้ง่ายว่าปวดหัวแบบไหนเกิดจากสาเหตุใด จะได้กินยาถูกตัวหรือไปบอกอาการให้เภสัชกรและแพทย์ได้อย่างชัดเจน แต่แน่ใจหรอ… ว่าอาการปวดหัวข้างเดียวนั้นจะมีสาเหตุมาจากโรคไมเกรนอย่างเดียว ? เพราะความจริงแล้ว ยังมีโรคและภาวะอย่างอื่นที่ทำให้มีอาการปวดหัวข้างเดียวได้เช่นกัน บางสาเหตุอาจร้ายแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว 

 

ปวดหัวไมเกรน เป็นอย่างไร ? 

ไมเกรนนั้นจะมีอาการปวดหัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงเป็นจังหวะ ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหัวแค่ข้างเดียว แต่บางรายอาจปวดหัวอย่างรุนแรงทั้งสองข้าง หรืออาจปวดบริเวณขมับ ท้ายทอย บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

ส่วนระยะเวลานั้นไม่แน่นอน บางคนอาจปวดหัวอยู่ไม่นาน แค่บางคนอาจปวดหัวนานข้ามวันได้ โดยอาการดังกล่าวนี้เกิดจากการที่หลอดเลือดแดงในสมองบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ

ปวดหัว

ขอบคุณภาพจาก: Freepik

 

ปวดหัวจากความเครียด

โรคปวดหัวจากความเครียด (Tension Headache) เกิดจากความเครียดและกดดันจากการทำงาน การเรียน การใช้ชีวิตประจำวัน การจ้องจอคอมนาน ๆ ซึ่งพนักงานออฟฟิศมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ได้ง่าย โดยโรคนี้จะมีอาการปวดบีบบริเวณหน้าผาก ขมับ ท้ายทอย บางคนอาจมีอาการปวดหัวข้างเดียวเหมือนกับอาการปวดหัวไมเกรนได้เช่นเดียวกัน 

ปวดหัวจากความเครียด

ขอบคุณภาพจาก: Freepik

 

ปวดหัวคลัสเตอร์ 

อาการปวดหัวคลัสเตอร์นี้มีสาเหตุมาจากเส้นประสาทในสมอง ระบบประสาทอัตโนมัติและหลอดเลือดทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการปวดหัวเป็นชุด ๆ บริเวณกระบอกตา ขมับ บางคนอาจมีอาการปวดหัวข้างเดียวคล้ายปวดหัวไมเกรน โดยในหนึ่งวันอาจเกิดอาการปวดหัวได้หลายครั้ง หรือบางคนอาจมีอาการต่อเนื่องนานเป็นสัปดาห์ได้

นอกจากอาการปวดหัวแล้ว ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาแดง ตาบวม น้ำตาไหล ลืมตาลำบาก น้ำมูกไหล คัดจมูกข้างเดียวกับที่ปวด เป็นต้น 

ปวดหัวคลัสเตอร์ 

ขอบคุณภาพจาก: Freepik

 

ปวดหัวจากต้อหินเฉียบพลัน 

ต้อหินเฉียบพลัน เกิดขึ้นจากการที่ความดันในลูกตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณเบ้าตา ตาแดง น้ำตาไหล คลื่นไส้ นอนไม่หลับ และอาจมีการปวดบริเวณขมับร่วมด้วย อาการต้อหินเฉียบพลันนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เล่นมือถือนานเกินไป

เล่นมือถือ บนเตียง

ขอบคุณภาพจาก: Freepik

 

ปวดหัวคล้ายไมเกรน

นอกจากนี้ ยังมีโรคและภาวะบางอย่างที่อาจไม่ได้มีอาการปวดหัวข้างเดียวเหมือนไมเกรน แต่ก็ทำให้มีอาการปวดหัวรุนแรงคล้ายอาการปวดหัวจากไมเกรนได้เช่นเดียวกัน 

 

ปวดหัวจากเนื้องอกในสมอง

เนื้องอกในสมองนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม เคยใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เคยได้รับบาดเจ็บที่สมอง หรือเป็นผู้ที่เคยได้รับการฉายแสงบริเวณศีรษะ โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวซึ่งมักเกิดขึ้นตอนเช้าหรือตอนกลางคืน และอาการอื่น เช่น อาเจียน แขนขาอ่อนแรง หมดสติ หรือมีอาการชัก เป็นต้น

ปวดหัวจากเนื้องอกในสมอง

ขอบคุณภาพจาก: Freepik

 

ปวดหัวจากโรคหลอดเลือดสมอง 

โรคหลอดเลือดสมองเป็นอีกโรคหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงได้ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก กลุ่มแรกเกิดจากภาวะหลอดเลือดอุดตันหรือหลอดเลือดตีบ ทำให้ไม่มีเลือดไปเลี้ยงสมอง ส่วนกลุ่มที่สองเกิดจากการฉีกขาดของหลอดเลือดทำให้มีเลือดออกในสมอง โดยภาวะดังกล่าวมีอาการหลายรูปแบบ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ แขนขาอ่อนแรง ตาพร่ามัว พูดไม่ชัด เป็นต้น 

ปวดหัวจากโรคหลอดเลือดสมอง

ขอบคุณภาพจาก: Freepik

 

สุดท้ายนี้ ใครที่มีอาการปวดหัวบ่อย ปวดหัวรุนแรง หรือปวดหัวข้างเดียว ไม่ควรวินิจฉัยโรคและไปซื้อยาด้วยตัวเอง ควรไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดก่อน จะได้กินยาและรักษาให้ถูกโรค

หากไปซื้อยามาใช้เอง อาจทำให้อาการปวดหัวรุนแรงขึ้น หรือได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยาผิดประเภท ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก health.kapook.com / thaihealth.or.th

บทความการดูแลสุขภาพ