ประจำเดือนไม่มา ท้องหรือเปล่า ?

เคยไหมคะ ประจำเดือนไม่มาแล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า นี่เรากำลังตั้งครรภ์อยู่รึเปล่า ? ความจริงแล้ว การมีประจำเดือนของสาว ๆ แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนมาตรงกันทุกเดือน บางคนมาคลาดเคลื่อน 2 - 3 วัน หรือบางคนอาจประจำเดือนไม่มาเนื่องจากสาเหตุอื่น เช่น ความเครียด, ฮอร์โมนผิดปกติ หรือปัญหาสุขภาพ แต่ถ้าประจำเดือนขาดหรือมาช้ากว่าปกตินานเกิน 7 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ ด้วย เช่น มีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน คัดตึงเต้านม มีตกขาวมากกว่าปกติ ก็อาจเป็นสัญญานหนึ่งของการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

วิธีที่จะทำให้ทราบว่าเราตั้งครรภ์หรือเปล่าก็คือการตรวจครรภ์นั่นเอง แต่ก็ไม่ควรตรวจเร็วเกินไปเพราะอาจได้ผลที่ไม่แม่นยำ ควรตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันอย่างน้อย 12 - 14 วัน เนื่องจากมีระดับฮอร์โมนที่สูงเพียงพอจะตรวจพบการตั้งครรภ์ค่ะ

วิธีการตรวจครรภ์ด้วยตนเอง

สาว ๆ ทุกคนสามารถตรวจครรภ์ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยชุดตรวจครรภ์ โดยวิธีตรวจมีทั้งหมด 3 รูปแบบ ดังนี้

1. แบบปัสสาวะผ่าน : ในกล่องจะมีแท่งตรวจสอบการตั้งครรภ์สามารถถอดฝาครอบแล้วถือแท่งทดสอบให้ทิศทางลูกศรชี้ลง จากนั้นปัสสาวะผ่านประมาณ 30 วินาที แล้วตั้งทิ้งไว้รออ่านผล เป็นเวลา 3 - 5 นาที

2. แบบหยด หรือแบบตลับ : ในกล่องะมีอุปกรณ์ให้ 3 ชิ้น คือ ถ้วยตวงเก็บปัสสาวะ หลอดหยด และตลับตรวจครรภ์ ให้นำปัสสาวะใส่ถ้วยตวงแล้วใช้หลอดหยดดูดปัสสาวะจากถ้วยก่อนจะหยด 3 - 4 หยด ลงในตลับตรวจครรภ์ แล้วตั้งทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นค่อยอ่านผลตรวจ

3. แบบแถบจุ่ม : ในกล่องจะมีถ้วยตวงเก็บปัสสาวะและกระดาษทดสอบ วิธีใช้คือ ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่าง และนำกระดาษทดสอบจุ่มลงในปัสสาวะประมาณ 3 - 7 วินาที แล้วนำออกมาวางทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นค่อยอ่านผลตรวจ

วิธีอ่านผลจากชุดตรวจครรภ์ 

บนชุดตรวจจะมีตัวอักษร 2 ตัวคือ C (Control Line) และ T (Test Line) โดยสามารถอ่านค่าได้ ดังนี้ 

• หากขึ้น 2 ขีดบริเวณตัว C และตัว T แปลว่าผลเป็นบวก หมายถึงกำลังตั้งครรภ์ 
• หากขึ้นขีดเดียวบริเวณตัว C แปลว่าผลเป็นลบ หมายถึงไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือตั้งครรภ์แล้วแต่ยังตรวจไม่ขึ้น
• หากไม่ขึ้นขีดเลย แสดงว่าที่ตรวจครรภ์เสีย หมดอายุ หรือเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนการตรวจ ควรตรวจใหม่อีกครั้ง 

ข้อควรระวังในการอ่านผล 

หากตรวจแล้วขึ้น 1 ขีด ก็อาจจะยังสรุปไม่ได้ว่าตั้งครรภ์รึเปล่า เพราะอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้ เช่น ชุดตรวจครรภ์ไม่ได้มาตรฐาน ชุดตรวจชำรุด หรือร่างกายผลิตฮอร์โมน hCG ออกมาน้อย เป็นต้น

หากประจำเดือนยังไม่มาใน 2 - 3 วันถัดไป ควรลองตรวจครรภ์ซ้ำอีกครั้ง หรือตรวจครรภ์กับแพทย์เพื่อให้ได้ผลการตรวจแม่นยำค่ะ

ผู้เขียน

ธมนวรรณ พรพาณิชเจริญ 

เภสัชกร

อ่านอะไรต่อดี ? 

บรรเทาอาการปวดประจำเดือน โดยไม่ใช้ยาพอนสแตน 500

การมีเพศสัมพันธ์ ช่วงมีประจำเดือน ทำให้ท้องหรือไม่ ?

10 ข้อต้องรู้ เรื่องเกี่ยวกับประจำเดือน

หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา Fascino ผ่านระบบเทเลฟาร์มมาซี เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพทุกช่องทาง

• ปรึกษาง่าย ๆ ไม่ต้องโหลดแอป ได้ที่ https://telepharmacy.fascino.co.th/
• Facebook : https://m.me/fascinohealthcarethailand
• Line : https://lin.ee/3mHf2nZ
• โทร : 02-111-6999