เคล็ด (ไม่) ลับ จบปัญหาผมร่วง ผมบาง

ผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาที่หลายคนไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง เพราะนอกจากจะทำให้กังวลเรื่องปัญหาสุขภาพแล้ว ยังทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเมื่ออยู่ในที่สาธารระอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าการหลีกเลี่ยงสารเคมีจะช่วยป้องกันได้ทางหนึ่ง แต่ปัญหาผมร่วงผมบางอาจเกิดจากสาเหตุอื่นอย่างกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดลับจบปัญหาผมร่วงและผมบาง โดยอ่านได้จากบนความนี้

ผมร่วง ผมบาง ปัญหาน่าปวดหัว 

ในปัจจุบัน มีผู้ที่ประสบปัญหาภาวะผมร่วงหรือผมบางที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic Alopecia : AGA) เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยนักวิจัยพบว่ามีอัตราการพบประมาณ 5% ต่อปี ซึ่งการรักษาผมบางแบบพันธุกรรมด้วยยาแผนปัจจุบันที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ยาเม็ด Finasteride ชนิดรับประทานและยาทาเฉพาะที่ Minoxidil 

ยา Finasteride ชนิดรับประทานเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5α-Reductase ซึ่งทำให้ระดับฮอร์โมน DHT ที่หนังศีรษะลดลง จึงมีผลลดการหลุดร่วงของเส้นผมและมีส่วนช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม ขนาดยาที่แนะนำคือ 1 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง รับประทานติดต่อกันนานอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะเห็นผลการงอกของเส้นผมและป้องกันอาการผมร่วง

ยาทาเฉพาะที่ Minoxidil มีผลช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมมี 2 ความแรงคือ 2%, 5% โดยความแรงของยาที่แนะนำคือ 5% มีประสิทธิภาพดีกว่ายาทา Minoxidil ความแรง 2% 

สารอาหารที่มีผลต่อสุขภาพของเส้นผม 

วิตามินหลายชนิดมีรายละเอียดโดยย่อของวิตามินที่แตกต่างกันเพื่อรักษาอาการผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์

1. วิตามินเอ ช่วยในการปรับสภาวะสมดุลให้เหมาะสม จึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของเส้นผม และการขาดวิตามินเอจะเป็นสาเหตุส่งผลให้เกิด ผมร่วงทั่วศีรษะ (Telogen Effluvium) และเส้นผมมีความเปราะบางไม่แข็งแรง
2. วิตามินบี เช่น ไรโบฟลาวิน (B2), ไบโอติน (B7), โฟเลต และวิตามินบี 12 ถ้าร่างกายขาดหรือบกพร่องไปอาจจะส่งผลให้เกิดการผมร่วงได้  
3. วิตามินซี จะมีบทบาทสำคัญในการดูดซึมธาตุเหล็กในลำไส้ ดังนั้นการเสริมวิตามินซีในผู้ป่วยที่มีผมร่วงจึงเกี่ยวข้องกับการขาดธาตุเหล็ก
4. วิตามินดี พบว่าการขาดวิตามินดีในรูขุมขน (Hair Follicles) ในผู้ป่วยโรคกระดูกอ่อนประเภท II (Rickets type II) มีความเกี่ยวข้องกันอย่างชัดเจน ซึ่งการเกิดผมร่วงตามร่างกาย (Body Alopecia) มักพบในกรณีผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน VDR (Vitamin D Receptor) ซึ่งเป็นผลจากร่างกายมีการดื้อต่อวิตามินดี  
5. วิตามินอี รายงานกรณีที่ศึกษาเกี่ยวกับวิตามินอีพบว่า มีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการเสริมวิตามินอีต่อโรคผมร่วง โดยวิตามินอีมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระ และกระบวนการป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระโดยสารต้านออกซิเดชั่น (Oxidative Stress) ในหนังศีรษะได้ ซึ่งภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาผมร่วงและผมบาง

นอกจากวิตามินนานาชนิดที่ช่วยลดการขาดร่วงของเส้นผมแล้ว แร่ธาตุก็สำคัญเช่นเดียวกัน โดยแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยลดอาการผมร่วงและผมบางที่เกิดจากกรรมพันธุ์ได้นั้นมีหลายชนิด เช่น เหล็ก (Iron), สังกะสี (Zinc) และ ซีลีเนียม (Selenium) เป็นต้น

ภก. ธนธรณ์ กุลเกียรติประเสริฐ
ภ.43236
ผู้เขียน