“BEFAST” สัญญาณอันตราย เสี่ยงอัมพฤกต์ อัมพาต

“อัมพฤกษ์ อัมพาต” เป็นโรคที่น่ากลัวในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุบางท่านกล่าวว่า “ถ้าต้องนอนติดเตียงขยับร่างกายไม่ได้ขอเลือกจากไปอย่างสงบจะดีกว่า” เพราะหากเป็นอัมพฤกต์ อัมพาตแล้วจะทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง ขยับตัวไม่ได้ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่กลัวที่ต้องเป็นภาระให้กับลูกหลาน แม้โรคนี้จะเป็นโรคที่ดูน่ากลัวแต่เราสามารถป้องกันได้ถ้าหากสามารถส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับโรคอัมพฤกต์ อัมพาต และอาการที่สัญญาณอันตรายของโรคนี้กันดีกว่าครับ จะได้เอาไว้สังเกตผู้ป่วยได้ทันและรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว

อัมพฤกษ์ อัมพาตคืออะไร
อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นอาการของโรคหลอดเลือดในสมอง หรือ Stroke เกิดจากการที่เซลล์สมองขาดเลือดโดยมีสาเหตุจากภาวะหลอดเลือดสมองตีบและอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมากถึง 80% และอีก 20% คือสาเหตุจากการมีเลือดออกในสมอง

การป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

เลิกดื่มสุรา และสูบบุหรี่
หมั่นออกกำลังกายเพื่อรักษาน้ำหนักให้ตรงตามเกณฑ์เสมอ
หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และความดันโลหิตให้เป็นปกติอยู่เสมอ
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และลดอาหารรสเค็มจัดหรือหวานจัด
หมั่นตรวจสุขภาพ และไปพบแพทย์เป็นประจำเพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อาการที่เป็นสัญญาณเตือนต้องรีบนำผู้ปวยส่งโรงพยาบาลตามหลักการของ “BEFAST”

B = Balance เดินเซ เวียนศีรษะ บ้านหมุนฉับพลัน

E = Eyes ตาพร่ามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อนฉับพลัน

F = Face Dropping ใบหน้าชาหรืออ่อนแรง ยิ้มแล้วมุมปากตก

A = Arm Weakness แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง กำมือไม่ได้

S = Speech Difficulty ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดลำบาก พูดไม่ได้ พูดไม่ออก

T = Time to Ccall รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่และนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1442

เหตุผลที่ต้องคอยสังเกตุอาการให้ถูกและควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลเพราะโรคหลอดเลือดสมองมักเกิดขึ้นเฉียบพลัน เมื่อเป็นแล้วร่างกายฟื้นตัวได้ยาก แต่ถ้ารักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้องก็จะช่วยลดโอกาสเสียชีวิต ลดความเสี่ยงพิการ และกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้เร็วขึ้น โดยระยะเวลาที่อยากให้ส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลคือไม่เกิน 4.5 ชั่วโมงนับตั้งแต่มีอาการ เวลาถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินความเป็นความตายในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ ก่อนที่สมองจะเสียหายจากการขาดเลือด จึงนับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ผู้เขียน

ภก. ประณต เอี่ยมสุขมงคล

เภสัชกร

หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ที่ ปวด ป่วย อาย จาม "ถามMacy" เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ